Breaking

วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2562

5 สถานที่ท่องเที่ยวมหัศจรรย์ที่ไม่น่ามีอยู่จริงในโลก



ในโลกนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่แปลกจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่จริงในโลก  วันนี้ได้ลองรวบรวมสถานที่มหัศจรรย์และแปลกตา ที่เราได้เคยไปเยือนแล้วรู้สึกว่านี่แหละสถานที่สุดยอดที่ไม่น่ามีอยู่ในโลก  มีที่ไหนบ้าง ตามไปชมกันเลย

Victoria fall น้ำตกกำเนิดชีวิตแห่งกาฬทวีป ZAMBIA

น้ำตกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งแอฟริกาแห่งนี้มีชื่อท้องถิ่นคือ Mosi-oa-Tunya หรือแปลได้อย่างน่าเกรงขามว่า น้ำตกหมอกควันคำราม  ด้วยลักษณะเฉพาะตัวที่มีละอองน้ำจากความแรงของกระแสน้ำพวงพุ่งตลอดเวลา ด้วยความยาวถึง 1690 เมตร สูงกว่า 100 เมตร ทำให้ที่นี่เป็นน้ำตกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
หาห้องพักสิ

ทางเดินยักษา  Giant’s Causeway, NOTHERN IRELAND

สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ว่ากันว่าเป็นทางเดินของยักษ์ที่มนุษย์ไม่มีทางทำขึ้นมาได้นี้ ตั้งอยู่ที่ตอนเหนือของเกาะ IRELAND ในส่วน ไอร์แลนด์เหนือ นับเป็นมรดกทางธรรมชาติที่เก่าแก่ของโลกมาช้านานหลายสิบปีแล้ว ความพิเศษอยูที่รูปร่างของหินที่แปลกตาเป็นทรงเรขาคณิตราวกับสร้างขึ้น โดยแต่เดิมเป็นหินบะซอลต์ที่เกิดจากภูเขาไฟระเบิดเมื่อกว่า 50 ล้านปีมาแล้ว  เมื่อเย็นตัวลงจึงเกิดปฎิกริยาแยกตัวออกเป็นรูปร่างหกเหลี่ยมด้านเท่า
หาห้องพักสิ

หุบเขามังกรลึกลับ  จางเจียเจี้ย CHINA

หุบเขาสลับซับซ้อนหน้าตาเหมือนหลุดมาจากนิยายนี้ตั้งอยู่ทางตอนกลางของจีน  หลายคนอาจจะคุ้นเคยจากหนังเรื่อง AVATAR ที่ใช้ที่นี่เป็นแรงบันดาลใจ จุดเด่นคือกลุ่มเขาน้อยใหญ่รูปทรงสูงโปร่งราวกับจะทะลุขึ้นไปถึงชั้นฟ้า สวยงามราวภาพในฝัน ปัจจุบันถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของจีนที่ใครได้ไปต่างก็หลงใหลในความแปลกพิศดารทั้งสิ้น
หาห้องพักสิ

สุดยอดถนนของโลก Great Ocean Road, AUSTRALIA

แนวถนนทอดยาวริมฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของออสเตรเลียนี้มีความพิเศษที่หินจำนวนนับสิบก้อนที่ตั้งอยู่เลียบไปกับชายทะเล ก่อเกิดภูมิทัศน์แปลกตาแก่ผู้พบเห็น และทำให้ถนนแห่งนี้นับว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลกทีเดียว
หาห้องพักสิ

Sossusvlei บึงเกลือแห่งความตาย NAMIBIA

ทะเลทรายนามิบแห่ง Namibia ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่สุดพิเศษของโลกนี้ ด้วยความกว้างใหญ่ของพื้นที่ และสีของทรายที่แดงสวนงามราวอัญมณี แต่ถ้าให้เจาะจงลงไปแล้ว บริเวณ Sossusvlei  นี่แหละที่มหัศจรรย์มากที่สุด
Sossusvlei  มีความหมายว่า บึงที่ไม่มีวันหวนกลับ ฉะนั้นบางทีเราก็เรียกบริเวณนี้ว่า Dead vlei  โดยในบริเวณ Sossusvlei  นั้นสมัยก่อนจะเป็นบึงที่มีน้ำขังในฤดูฝน ทำให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่าง ๆ รวมถึงมีต้นไม้ Acacia ขึ้นมา แต่เมื่อบึงแห้งเหือด ต้นไม้ก็ค่อย ๆ ตายไป เหลือแต่ซากที่แห้งท่ามกลางดินที่แตกระแหง เป็นภาพที่อยู่เหนือจินตนาการจริง ๆ
หาห้องพักสิ


ที่มา - travelkanuman.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม